วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560


อนุทินที่ 5 วิเคราะห์ข่าวเกี่ยวกับพระ




  MATICHON ONLINE
                                                                             วันที่: 20 ก.พ. 60 เวลา: 08:20 น.

   ส่อรุนแรงแต่เช้า! ปะทะกันแล้วที่หน้าวัดพระธรรมกาย

   หลังพระสงฆ์ดาหน้ากรูออกมาผลักดันจนท.ออกจากประตู





  ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า บรรยากาศบริเวณหน้าปากทางเข้า-ออก ของประตู 5 และ 6 ของวัดพระธรรมกาย ว่า เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ยืนตรึงกำลังกันอยู่ที่บริเวณปากทางเข้า-ออก ที่จะเลี้ยวเข้าประตู 5 และ 6 คลองแอล ซึ่งขณะนั้นได้มีกลุ่มพระสงฆ์จำนวนหนึ่งประมาณ 20 รูป เดินถือลำโพงพูดออกมาว่าจะออกมารับบรรดาญาติโยมที่ยืนรออยู่ที่ปากทางเข้ามาไม่ได้และกลุ่มพระสงฆ์ได้ตั้งแถวเดินออกมาเกือบถึงปากซอยทางออก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้จัดแนวแถวออกมายันกลุ่มพระสงฆ์เอาไว้จึงเกิดการเผชิญหน้าและปะทะและผลักดันฮือกันไปมาซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดความตึงเครียดขึ้นของทั้งสองฝ่าย และในทีแรกทางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อยากลงมือหรือทำอะไรที่เกินกว่าเหตุได้แต่เพียงผลักดันและยื้อกลุ่มพระสงฆ์เอาไว้





ต่อมาทางหัวหน้าชุดของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุขอกำลังเสริมจากกำบังอีกชุดให้วิ่งเข้ามาช่วย ระหว่างนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจล้มลงและเศษไม้ทิ่มเข้าที่มือมีเลือดไหลออกมาและได้มีการยื้อฉุดรั้งเกิดขึ้นของทั้งสองกลุ่มใช้เวลาผลักดันและปะทะกำลังเกือบ 20 นาที และระหว่างนั้นได้มีญาติโยมเป็นหญิงสูงอายุจะเข้ามาพูดห้ามได้เกิดพลัดล้มเข้าไปอยู่ในวงล้อมของการปะทะทำให้ถูกเหยียบลงกับพื้นแต่อาการไม่สาหัสเท่าไร ในการปะทะครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่มือและขา 2 นาย พระบาดเจ็บเล็กน้อย 3 นาย มีญาติโยมได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย เจ้าหน้าที่นำตัวหญิงบาดเจ็บส่งรพ.ใกล้เคียง โดยขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังกันไว้และประจันหน้ากันระยะห่าง 2 เมตร สถานการณ์ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด





เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ปรากฏว่า ยังคงมีสื่อมวลชนจากหลายสำนักปักหลักเฝ้าทำข่าวกันอยู่ และพระสงฆ์จากวัดพระธรรมกายได้ออกเดินบิณฑบาตกันตามปกติ โดยมีบรรดาญาติโยมต่างทยอยกันเดินออกมาจากพื้นที่ด้านในอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนที่ยืนรักษาการณ์ตรึงกำลังกันอยู่ที่ปากทางได้ประกาศประชาสัมพันธ์ให้เหล่าศิษยานุศิษย์ที่กำลังเดินทางออกมาให้ทราบว่า สามารถเดินทางออกไปเพื่อกลับบ้านได้ แต่จะไม่อนุญาตให้กลับเข้าไปในวัดใหม่ได้อีก
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 03.27 น.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ได้พบมีการเคลื่อนไหวของพระภิกษุและสามเณรจากจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียงประมาณจำนวน 15 รูป ที่ต่างทะยอยเดินทางกันเข้ามา ซึ่งตนยืนรวมตัวกันที่บริเวณปากซอยทางเข้าวัดพระธรรมกาย เพื่อจะขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการณ์อยู่ให้ช่วยเปิดทางเข้าไปภายในพื้นที่ของประตู 5 และ 6 ด้วย


วิเคราะห์ข่าว
            พระสงฆ์ หรือ หมู่สาวกของพระพุทธเจ้า คือมนุษย์ที่ได้ฟังคำสั่งสอนแล้วเกิดความเลื่อมใสจนสละเรือนออกบวชตามพระพุทธเจ้า เพราะต้องการจะได้บรรลุธรรมตามที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนไว้ พระสงฆ์จึงจัดได้ว่าเป็นผู้ที่อยู่ในกรอบแห่งศีลธรรม สำรวมตน ยึดมั่นในการปฏิบัติคุณความดี เป็นที่เคารพนับถือและยังเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตและการปฏิบัติตนของบรรดาชาวพุทธหรือพุทธศาสนิกชน เพราะพระสงฆ์คือผู้ที่สืบทอดเหลักธรรมแห่งการดำรงชีวิตบนโลกของชาวพุทธ ดังจะเห็นหลักคำสอนหรือคัมภีร์พระไตรปิฎกที่ปรากฏและสะท้อนให้เห็นถึงวิธีแห่งชาวพุทธ
          แต่หากเราย้อนดูข่าวที่เกิดขึ้นในสังคมไทยปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ามีข่าวที่เกี่ยวกับพระสงฆ์มากมาย ได้แก่ ข่าวพระสงฆ์ที่ผิดวินัย ข่าวพระสงฆ์กับสีกา หรือแม้แต่ข่าวที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นที่พูดกันมาก นั่นคือ ข่าววัดพระธรรมกาย หลังจากที่กระผมได้อ่านข่าว ส่อรุนแรงแต่เช้า! ปะทะกันแล้วที่หน้าวัดพระธรรมกาย หลังพระสงฆ์ดาหน้ากรูออกมาผลักดันจนท.ออกจากประตู” ลำดับแรกรู้สึกตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะผู้ที่อยู่ในศีลในกฎไม่ควรมีพฤติกรรมที่ปรากฏดังในข่าว นั่นคือ การใช้กำลังที่ปราศจากการคิดหรือไตร่ตรองถึงวินัยและสิ่งที่จะตามมา และเช่นกันทางฝ่ายเจ้าที่ก็ไม่ควรใช้กำลังกับผู้ที่ยึดมั่นในหลักธรรมหรือเผยแพร่ศาสนา ควรให้ความเคารพและใจเย็นในการแก้ปัญหา ผลของการปะทะระหว่างพระกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าวยังส่งผลต่อชาวบ้านซึ่งเป็นผู้แสวงบุญได้รับบาดเจ็บไปด้วย กระผมจึงไม่เห็นด้วยกับการกระทำของทั้ง 2 ฝ่าย
หากเราลองใช้ความเมตตากรุณาต่อกัน สังคมของเราจะน่าอยู่เพียงใด ยังคงเป็นคำถามที่ต้องการให้ทุกคนลองสะท้อนและหระหนักถึงการให้อภัย ถ้อยทีถ้อยอาศัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยยึดมั่นในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าอันเป็นหลักคำสอนที่สำคัญที่สุดของชาวพุทธ “เมืองไทยคือเมืองพุทธ” ชาวพุทธก็ต้องมีน้ำใจและให้อภัยซึ่งกันและกัน สังคมของเราก็จะน่าอยู่และมีแต่สิ่งดี ๆ  


นายอัครวิทย์  ลายดุล รหัสนักศึกษา 5681114005
คณะครุศาสตร์  สาขาวิชา ภาษาอังกฤษ 01
มหาวิทยาลัยราภัฎนครศรีธรรมราช

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น